นโยบายทางการตลาด เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด

1. ความยินยอมเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

1.1 เมื่อ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์1 (“บริษัทฯ”) ประสงค์ที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด เช่น การส่งแผ่นพับเพื่อทำการตลาด (marketing brochures) ไปยังบุคคลใดๆ บริษัทฯ ต้องแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวที่บริษัทฯ ประสงค์จะทำเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด และบริษัทฯ ต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นตามข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ”) ก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
1.2 ก่อนที่บริษัทฯ จะสามารถดำเนินการใดๆ ด้านการตลาดต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง บริษัทฯ ต้องทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯ ได้รับความยินยอมที่จำเป็น โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดได้ก็ต่อเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้ดำเนินการแล้วเท่านั้น
1.3 ในกรณีการตลาดทางตรง บุคคลมีสิทธิภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ที่จะคัดค้านมิให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเองได้ไม่ว่าในเวลาใดๆ ก็ตาม โดยในกรณีที่มีการใช้สิทธิคัดค้านดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวได้อีกต่อไป และบริษัทฯ จะต้องแยกข้อมูลส่วนบุคคลนั้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตลาดทางตรงออกจากเรื่องอื่นๆ อย่างชัดเจนทันทีที่บุคคลนั้นๆ ได้บอกกล่าวการคัดค้านมายังบริษัทฯ
1.4 สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมก่อนวันที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ใช้บังคับนั้น บริษัทฯ มีสิทธิที่จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ต้องจัดทำและประกาศวิธีการเพิกถอนการให้ความยินยอมไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มีการเก็บรวบรวมไว้ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ประสงค์ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมได้โดยง่าย

1 บริษัทในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
(1)บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด
(2)บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
(3)บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด
(4)บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
(5)บริษัท คิง เพาเวอร์ มาเก็ตติ้ง แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด
(6)บริษัท คิง เพาเวอร์ คลิก จำกัด
(7)บริษัท คิง เพาเวอร์ โฮเทล แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด
(8)บริษัท คิง เพาเวอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
(9)บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด
(10) บริษัท คิง เพาเวอร์ เอวิเอชั่น จำกัด
(11) บริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด
(12) บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด

2. ข้อความทางการตลาด

เมื่อบริษัทฯ ประสงค์จะส่งข้อความทางการตลาดหรือทำการตลาดผ่านทางโทรศัพท์ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ หรือทำการตลาดไม่ว่าโดยช่องทางสื่อสารใดๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะต้องมั่นใจว่าบริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นๆ เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดแล้ว

3. การโฆษณาและการเชิญชวนให้เข้าร่วมงานผ่านทางอีเมล ทางไปรษณีย์ หรือทางช่องทางสื่อสารอื่นใด

ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะต้องไม่ส่งโฆษณาหรือคำเชิญชวนให้เข้าร่วมงานผ่านทางอีเมล ทางไปรษณีย์ หรือทางช่องทางสื่อสารอื่นใดไปยังบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เว้นแต่บุคคลดังกล่าวจะได้ให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวและรับโฆษณาหรือคำเชิญชวนดังกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หรือเว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นไปตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เนื่องจากเมื่อมีการส่งโฆษณาหรือคำเชิญชวนไปนั้น โดยสาระสำคัญย่อมเป็นการที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด

4. การตอบสนองการขอข้อมูล (กรณีอื่นๆ ที่ไม่ใช่กรณีสื่อสารแบบต่อหน้า)

4.1 เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งติดต่อมายังบริษัทฯ (กล่าวคือ โดยการโทรศัพท์ อีเมล ข้อความทางโทรศัพท์ (SMS/MMS) โทรสาร หรือส่งทางไปรษณีย์) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายหรือโฆษณาที่มีอยู่ บริษัทฯ อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมตามที่บุคคลดังกล่าวขอมาได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ควรส่งข้อมูลให้แต่เฉพาะข้อมูลเพิ่มเติมตามที่บุคคลดังกล่าวขอมา โดยบริษัทฯ ต้องไม่ส่งข้อมูลที่เกินไปกว่าที่บุคคลนั้นได้ขอมาหรือใช้วิธีการติดต่อสื่อสารที่บุคคลดังกล่าวไม่ได้ขอให้บริษัทฯ ใช้
4.2 ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางโทรศัพท์ บริษัทฯ ต้องจัดให้มีการทำบันทึกภายในซึ่งระบุวันที่และเวลาที่มีการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ รายละเอียดซึ่งสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้น สิ่งที่บุคคลดังกล่าวขอให้บริษัทฯ ดำเนินการ และข้อมูลที่บริษัทฯ จะให้ โดยบริษัทฯ ควรทวนซ้ำหรืออ้างอิงสิ่งที่บุคคลดังกล่าวร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการ ณ ตอนที่บริษัทฯ ให้ข้อมูลที่ขอมาแก่บุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ การตอบกลับเพื่อให้ข้อมูลโดยช่องทางอื่นนอกเหนือจากช่องทางเดียวกับที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้ติดต่อบริษัทฯ เพื่อขอข้อมูล บริษัทฯ จะสามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อบุคคลดังกล่าวร้องขอหรืออนุญาตให้บริษัทฯ ส่งข้อมูลให้โดยตอบกลับในช่องทางอื่นนั้นๆ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลผู้ติดต่อร้องขอให้บริษัทฯ ส่งข้อมูลที่ขอให้ทางอีเมลหรือไปรษณีย์ ในกรณีดังกล่าว ในอีเมลหรือไปรษณีย์ของบริษัทฯ ควรระบุข้อความดังต่อไปนี้หรือข้อความที่มีความหมายลักษณะเดียวกันนี้ ตัวอย่างเช่น
“อ้างอิงถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ของเราเมื่อวันที่ [ระบุวัน] ซึ่งท่านได้ร้องขอให้บริษัทฯ ส่ง [ระบุคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่บุคคลดังกล่าวร้องขอให้บริษัทฯ ส่งให้ เช่น แผ่นพับต่างๆ ที่แนบมาด้วย] ให้แก่ท่านทาง [อีเมล] ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงขอนำส่ง [ระบุสิ่งที่บริษัทฯ ส่งให้กับผู้ร้องขอข้อมูล] ที่ท่านขอมาเพื่อพิจารณา”

5. ข้อความทางการตลาดที่อยู่ในเอกสารหรือข้อความอื่น

ในบางกรณี ข้อความทางการตลาดหรือข้อความเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ตอนท้ายของใบเรียกเก็บเงินที่บริษัทฯ ออกให้แก่ลูกค้าอาจมีข้อความที่แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับรายการส่งเสริมการขายล่าสุด เป็นต้น ทั้งนี้ การรวมข้อความทางการตลาดเข้าไว้ในเอกสารทั่วไปที่ได้ส่งให้แก่คนจำนวนมากจะต้องถูกลบออกไป โดยข้อความทางการตลาดนี้ควรต้องระบุอยู่ในเอกสารที่แยกออกมาต่างหากจากเอกสารทั่วไป เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อความนั้นถูกจัดส่งให้เฉพาะแก่บุคคลที่ได้ให้ความยินยอมให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดเท่านั้น

6. การทำการตลาดทางอีเมลหรือไปรษณีย์

บริษัทฯ จะใช้อีเมลหรือที่อยู่ของบุคคลหนึ่งเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดก็เฉพาะต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดเช่นว่านั้น ณ เวลาที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น และบุคคลนั้นยังมิได้เพิกถอนความยินยอมดังกล่าว โดยข้อกำหนดนี้อยู่ภายใต้บังคับข้อยกเว้นการต้องได้รับความยินยอมใดๆ ที่อาจใช้บังคับกับกรณีดังกล่าว

ให้นโยบายฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2564

Privacy Preferences

When you visit our website, it may store information through your browser from specific services, usually in the form of cookies. Here you can change your Privacy preferences. It is worth noting that blocking some types of cookies may impact your experience on our website and the services we are able to offer.

For performance and security reasons we use Cloudflare
required

Click to enable/disable Google Analytics tracking code.

Click to enable/disable Google Fonts.

Click to enable/disable Google Maps.

Click to enable/disable video embeds.

Privacy Policy
Privacy Preferences
This website promotes privacy. Cookies are small files that are stored on your browser. We use cookies and similar technologies to ensure our website works properly, personalize your browsing experience, analyze how you use our website, and deliver relevant ads to you. For these reasons, we may share your site usage data with our social media, advertising and analytics partners. You can choose whether or not you want to consent to our use of cookies. You can learn more about how we use cookies by visiting our privacy policy page.